กลุ่มเอสแอล คอนเซอเตียมฯของสามารถคว้าประมูลโครงการ3จีทีโอที เสนอราคาต่ำสุด 16,290 ล้าน ต่ำกว่าราคากลาง17,440ล้านบาท หรือ 6.5% คาดเม.ย.-พ.ค.เปิดเฟสแรกได้ ด้านทีโอทีเตรียมเสนอบอร์ดจันทร์ 31 ม.ค.นี้ ก่อนเซ็นสัญญาเดือนก.พ.
ผู้สื่อข่าว"ประชาชาติธุรกิจ"รายงานว่า การประมูลโครงการติดตั้งและขยายเครือข่ายบริการโทรศัพท์มือถือ 3G ของบมจ.ทีโอที ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิสก์(อี-อ็อกชั่น)ได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อเวลาประมาณ 10.30น. หลังจากใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 ชั่วโมง มีการเคาะราคาทั้งสิ้น 17 ครั้ง โดยเป็นการแข่งขันกันเสนอราคาระหว่าง กลุ่ม“เอสแอล คอนเซอเตียม”ประกอบด้วยบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกเล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด บริษัท โนเกีย-ซีเมนส์ จำกัด และกลุ่ม“เอยู คอนซอเตียม” ประกอบด้วย บริษัท ยูคอม อินดัสเตรียล จำกัด บริษัท แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เอไอที บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น จำกัด
และคาดว่าคอนเซอเตียมในกลุ่มสามารถน่าจะเป็นผู้ชนะการประมูลครั้งนี้ โดยนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยหลังการประมูลว่า ราคาสุดท้ายที่ตนเสนอไปคือ 16,290 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางที่ 17,440 ล้านบาท 6.5%
"มั่นใจว่าจะติดตั้งได้เสร็จทันตามทีโออาร์ คือเม.ย.-พ.ค.เปิดเฟสแรกได้เลย แต่ที่น่าหนักใจคือส่วนการโคโลเกชั่น หรือการขยับปรับโครงข่ายเดิม ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น เพราะส่วนที่สร้างใหม่รู้อยู่แล้วว่าจะต้องใช้ต้นทุนเท่าไร การแบ่งความรับผิดชอบในการติดตั้งเครือข่ายกลุ่มสามารถจะดูแลภาคกลางและภาค ตะวันออก ใช้อุปกรณ์โนเกียซีเมนส์และหัวเว่ย ส่วนล็อกซเล่ย์จะดูแลภาคอีสานและภาคเหนือ"
นายวัฒน์ชัยกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นจะมีการเปิดประมูลการวางข่ายสายตอนนอก เพราะต้องใช้ซับคอนแทร็กเยอะมากเพื่อให้งานเสร็จได้ทันตามกำหนด
"ธุรกิจโทรคมนาคมเกี่ยวข้องกับหลายส่วนอยู่แล้วทั้งการเมืองและสัมปทาน แต่เรายืนยันว่าอุปกรณ์ที่เราใช้เป็นของดีมีคุณภาพแน่นอน"
ด้านนายอานนท์ ทับเที่ยง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที ในฐานะประธานกรรมการ"อี-อ็อกชั่น"กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 31 ม.ค.2554 จะนำเสนอกรรมการผู้จัดการใหญ่เพื่อให้ความเห็นชอบในราคาที่มีการเสนอต่ำสุด รวมถึงชื่อผู้เสนอราคาต่ำสุด ก่อนเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดบริษัทพิจารณาประมาณกลางเดือนก.พ.เพื่อให้ดำเนิน การอนุมัติลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง
"ในภาพรวมพอใจในราคาที่เสนอ แต่อาจมีการต่อรองราคาลงมาอีกหรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ถือว่าไม่มีความเสี่ยงใดๆ ในโครงการนี้อีก"
ผู้สื่อข่าว"ประชาชาติธุรกิจ"รายงานว่า การประมูลโครงการติดตั้งและขยายเครือข่ายบริการโทรศัพท์มือถือ 3G ของบมจ.ทีโอที ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิสก์(อี-อ็อกชั่น)ได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อเวลาประมาณ 10.30น. หลังจากใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 ชั่วโมง มีการเคาะราคาทั้งสิ้น 17 ครั้ง โดยเป็นการแข่งขันกันเสนอราคาระหว่าง กลุ่ม“เอสแอล คอนเซอเตียม”ประกอบด้วยบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกเล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด บริษัท โนเกีย-ซีเมนส์ จำกัด และกลุ่ม“เอยู คอนซอเตียม” ประกอบด้วย บริษัท ยูคอม อินดัสเตรียล จำกัด บริษัท แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เอไอที บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น จำกัด
และคาดว่าคอนเซอเตียมในกลุ่มสามารถน่าจะเป็นผู้ชนะการประมูลครั้งนี้ โดยนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยหลังการประมูลว่า ราคาสุดท้ายที่ตนเสนอไปคือ 16,290 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางที่ 17,440 ล้านบาท 6.5%
"มั่นใจว่าจะติดตั้งได้เสร็จทันตามทีโออาร์ คือเม.ย.-พ.ค.เปิดเฟสแรกได้เลย แต่ที่น่าหนักใจคือส่วนการโคโลเกชั่น หรือการขยับปรับโครงข่ายเดิม ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น เพราะส่วนที่สร้างใหม่รู้อยู่แล้วว่าจะต้องใช้ต้นทุนเท่าไร การแบ่งความรับผิดชอบในการติดตั้งเครือข่ายกลุ่มสามารถจะดูแลภาคกลางและภาค ตะวันออก ใช้อุปกรณ์โนเกียซีเมนส์และหัวเว่ย ส่วนล็อกซเล่ย์จะดูแลภาคอีสานและภาคเหนือ"
นายวัฒน์ชัยกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นจะมีการเปิดประมูลการวางข่ายสายตอนนอก เพราะต้องใช้ซับคอนแทร็กเยอะมากเพื่อให้งานเสร็จได้ทันตามกำหนด
"ธุรกิจโทรคมนาคมเกี่ยวข้องกับหลายส่วนอยู่แล้วทั้งการเมืองและสัมปทาน แต่เรายืนยันว่าอุปกรณ์ที่เราใช้เป็นของดีมีคุณภาพแน่นอน"
ด้านนายอานนท์ ทับเที่ยง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที ในฐานะประธานกรรมการ"อี-อ็อกชั่น"กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 31 ม.ค.2554 จะนำเสนอกรรมการผู้จัดการใหญ่เพื่อให้ความเห็นชอบในราคาที่มีการเสนอต่ำสุด รวมถึงชื่อผู้เสนอราคาต่ำสุด ก่อนเสนอให้ที่ประชุมบอร์ดบริษัทพิจารณาประมาณกลางเดือนก.พ.เพื่อให้ดำเนิน การอนุมัติลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง
"ในภาพรวมพอใจในราคาที่เสนอ แต่อาจมีการต่อรองราคาลงมาอีกหรือไม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ ถือว่าไม่มีความเสี่ยงใดๆ ในโครงการนี้อีก"
No comments:
Post a Comment